40 จำนวนผู้เข้าชม |
โปรไบโอติกส์ เป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิต เมื่อได้รับในปริมาณที่เพียงพอแล้วจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกัน และปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย
เมื่อเรารับประทานโปรไบโอติกส์เข้าไป โปรไบโอติกส์จะเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารเริ่มตั้งแต่ปากจนถึงทวารหนัก ซึ่งโปรไบโอติกส์จะต้องเจอสภาวะต่างๆของร่างกายมากมาย ทั้งความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ความเป็นด่างของเกลือน้ำดีที่ลำไส้เล็ก และเอนไซม์ต่างๆที่มีอยู่ในระบบทางเดินอาหาร
สภาวะต่างๆ ของระบบทางเดินอาหารในร่างกายที่โปรไบโอติกส์ต้องเจอ อาจทำให้โปรไบโอติกส์ที่รับประทานเข้าไปถูกทำลายลงไปได้ ส่งผลต่อความอยู่รอดและปริมาณของโปรไบโอติกส์
หากปริมาณของโปรไบโอติกส์ที่หลงเหลืออยู่มีไม่มากพอ ก็จะทำให้โปรไบโอติกส์เหล่านั้นไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะส่งเสริมร่างกายให้มีสุขภาพที่ดีได้ ดังนั้นการรับประทานโปรไบโอติกส์ให้มีปริมาณที่เพียงพอเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะถ้าหากรับประทานโปรไบโอติกส์ที่มีปริมาณไม่มากพอ โปรไบโอติกส์เหล่านั้นก็จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อร่างกาย
ปริมาณโปรไบโอติกส์ที่ดีที่จะช่วยในการส่งเสริมสุขภาพร่างกายนั้น ในอาหารหรือผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกส์จะต้องมีปริมาณจุลินทรีย์ที่มีชีวิตไม่น้อยกว่า 106 เซลล์ต่อ 1 กรัมของอาหาร หรือประมาณ 1 ล้านเซลล์ต่อ 1 กรัมของอาหาร
โพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์ชนิดดีที่มีชีวิต
มีทั้งชนิดแบคทีเรียดี ยีสต์ที่ดี และชนิดเชื้อราที่ดี
เช็คดู..คุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่?
แน่นท้อง
อึดอัด
ท้องผูก ถ่ายยาก
มีลมจุกเสียดในท้อง
กรดไหลย้อน
ลำไส้ปรวนแปร
อาการเหล่านี้ เกิดจากการทำงานของ "ตับ" และ "ลำไส้" ไม่สมดุล
ถ้าเช็คอาการแล้ว คำตอบ คือ ใช่เลย
ควรหันมาดูแลสุขภาพแบบจริงจังกันนะคะ เพราะสัญญาณเหล่านี้ อันตรายกว่าที่คิด
5 วิธีเพิ่มโพรไบโอติกส์ให้ร่างกาย
แรงเกินต้าน...กับเทรนด์การดูแลสุขภาพของระบบย่อยอาหารและลำไส้ให้สมดุล ด้วยการเติมโพรไบโอติกส์ให้กับร่างกาย ด้วยคุณประโยชน์ที่โดดเด่นของโพรไบโอติกส์ หรือ จุลินทรีย์ที่ดีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการปรับสมดุลลำไส้และระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้เป็นปกติ
วันนี้แอดมี How To - 5 วิธีเพิ่มโพรไบโอติกส์ให้ร่างกาย มาฝากกัน
1.ลดอาหารพวกแป้งและน้ำตาล เพิ่มอาหารประเภทกากใยในมื้ออาหาร
2.ลดเลี่ยงอาหารแปรรูปและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3.ทานยาฆ่าเชื้อหรือยาแก้อักเสบตามความจำเป็น
4.ปรับไลฟ์สไตล์ หาเวลาออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ
5. ทานอาหารเสริมที่มีโพรไบโอติกส์สูง อย่างเช่น 7 Active Syntech ที่มีโพรไบโอติกส์ถึง 10 สายพันธ์ุ และยังมีพรีไบโอติกส์ 7 ชนิด โพสต์ไบโอติกส์ และไฟโตนิวเทรียนท์อีก 10 ชนิด
จุดเด่นของโพรไบโอติกส์ใน เซเว่น แอคทีฟ ซินเทค ที่แตกต่างคือ มีนวัตกรรมการปกป้อง 5 ชั้น ที่ปกป้องเชื้อจากกรดในกระเพาะอาหาร น้ำดี ความร้อน พร้อมยึดเกาะผนังลำไส้ได้ดีและเก็บได้นานขึ้น
ถ้าพูดถึงสิ่งที่ดีต่อลำไส้ หลายคนคงนึกถึงโพรไบโอติก หรือพรีไบโอติก แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีโพสไบโอติก (Postbiotics) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ดีไม่แพ้กัน
โพสไบโอติก คืออะไร?
โพสไบโอติก (Postbiotic) คือ สารทางชีวภาพที่เป็นผลลัพธ์หลังจากที่จุลินทรีย์ดีได้ย่อยอาหารที่รับจากพรีไบโอติก หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นสารที่ได้จากโพรไบโอติกที่กินพรีไบโอติกไปนั่นเอง
ซึ่งความพิเศษของโพสไบโอติกคือ สามารถเลือกสายพันธุ์จุลินทรีย์ที่ดีและอาหารของจุลินทรีย์มาผสมกันเพื่อให้คุณประโยชน์ที่เราต้องการได้ โดยประกอบไปด้วยสารอาหารที่ให้ร่างกายดูดซึมได้อย่าง วิตามินเค วิตามินบี กรดไขมันสายสั้น กรดอะมิโน เป็นต้น ฉะนั้นจึงสามารถเรียกได้ว่าเป็น "นวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยเรื่องสุขภาพได้ตรงจุด" เพราะเมื่อวิจัยโพสไบโอติกได้แล้ว จะสามารถเสริมเข้าร่างกายเพื่อช่วยเรื่องนั้นๆ ได้เลย
โพสไบโอติก มีการทำงานอย่างไร
โพสไบโอติก จะทำให้ลำไส้มีสุขภาพดีเอื้อต่อการเจริญเติบโตของโพรไบโอติก ทำให้มีจุลินทรีย์ดีมากขึ้น ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อและแบคทีเรีย และยังทำให้ลำไส้สามารถดูดซึมโซเดียมและของเหลวได้มากขึ้น1
โพสไบโอติกมีประโยชน์อย่างไร
อย่างที่รู้กันไปแล้วว่าโพสไบโอติกคืออะไร และสามารถมีได้หลายสายพันธ์ุ อยู่ที่ว่านักวิทยาศาสตร์จะจับเอาตัวไหนมาใช้ เพราะนอกจากจะช่วยให้จุลินทรีย์ดีทำงานได้ดีขึ้น โพสไบโอติกยังมีประโยชน์อีกมากมาย ดังนี้
1. ช่วยลดน้ำหนัก
โพสไบโอติกเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดน้ำหนัก เพราะ Postbiotics จะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหารในลำไส้ได้ดีขึ้น ทำให้ลดการดูดซึมสารอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ เร่งการเผาผลาญพลังงานได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลในเลือด ซึ่งโพสไบโอติกสามารถลดความต้องการในการบริโภคน้ำตาลและควบคุมน้ำหนักได้ การศึกษาบางส่วนกล่าวว่าโพสไบโอติก อาจช่วยลดน้ำหนักโดยการระงับสัญญาณความหิวได้
และเพิ่มความสามารถในการสร้างแอนติบอดีได้ ทำให้ป้องกันแบคทีเรีย และสารพิษที่จะเข้าสู่ร่างกายได้ การศึกษาอื่นๆ พบว่าโพสไบโอติกช่วยลดการเป็นโรคหวัดในกลุ่มผู้สูงอายุที่กินโพสไบโอติกทุกวัน เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับตัวยาหลอกที่ไม่ส่งผลอะไร ในช่วงเวลาเดียวกัน
2. ช่วยลดรอบเอวและไขมันในช่องท้อง
มีงานวิจัยเกี่ยวกับโพสไบโอติกสายพันธุ์ BPL1 Postbiotic ว่าสามารถช่วยลดรอบเอวและลดไขมันช่องท้องได้ ด้วยการสนับสนุนให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างเป็นปกติ โดยการปรับภูมิคุ้มกันของไมโครไบโอมในลำไส้และส่งผลกระทบต่อการเผาผลาญและการกระจายของไขมัน จึงช่วยลดไขมันในร่างกาย ลดไขมันในอวัยวะภายใน ลดไขมันช่องท้อง และลดสัดส่วนอย่างรอบเอวลงได้ รวมถึงยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ
3. ช่วยต่อต้านการอักเสบ
ประโยชน์ของโพสไบโอติกอีกอย่างหนึ่งคือ สามารถช่วยต่อต้านการอักเสบได้ เช่น Urolithins2 ซึ่งสามารถบรรเทาอาการของโรคระบบทางเดินอาหารได้ โดยทำหน้าที่ผลิตกรดไขมันสายสั้น เพื่อช่วยควบคุมภูมิคุ้มกันและการอักเสบในทางเดินอาหารได้
ในการวิจัยกล่าวว่า “มากกว่า 1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาเป็นโรคลำไส้อักเสบ (IBD) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักผลิต บิวเทรต (กรดไขมันสายสั้นในลำไส้) น้อยลง ซึ่งโพสไบโอติกสายพันธุ์ Urolithins ช่วยแก้ปัญหาในผู้ที่มีโรคกระเพาะอักเสบหรือโรคโครห์น” และการศึกษาขนาดเล็กในผู้ที่เป็นโรคโครห์นไม่รุนแรง พบว่าการกิน Postbiotics 4 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ทำให้อาสาสมัคร 53% มีอาการดีขึ้น
4. ช่วยปรับสมดุลลำไส้
โพสไบโอติกช่วยปรับสมดุลในลำไส้ได้ โดยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย และช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในลำไส้ สำหรับการดูดซึมสารอาหารและสารอื่นๆ โดยเฉพาะสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามิน กรดอะมิโน และสารอาหารอื่นๆ นอกจากนี้ โพสไบโอติกยังช่วยลดการอักเสบในลำไส้ และยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในระบบย่อยอาหาร ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้สมดุลในลำไส้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีสุขภาพในระยะยาว
5. ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
โพสไบโอติกช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดความเสี่ยงการเป็นโรคต่างๆ อาทิ โรคหวัด โรคทางเดินหายใจ โดยการกระตุ้นการผลิตเซลล์ที่ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งการทดลองในผู้สูงอายุพบว่าโพสไบโอติกสายพันธุ์ Butyric Acid สามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ2 และเสริมภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะบริเวณลำไส้ใหญ่ ทำให้ผิวลำไส้ใหญ่แข็งแรง ป้องกันไม่ให้แบคทีเรียไม่ดีวิ่งเข้าสู่กระแสเลือด
6. ช่วยป้องกันและรักษาอาการท้องร่วง
โพสไบโอติกช่วยป้องกัน และลดอาการท้องร่วงได้ โดยการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในลำไส้ โดยโพสไบโอติกจะกระตุ้นการสร้างสารที่ช่วยลดการอักเสบ และเสริมการป้องกันของร่างกาย ทำให้ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อที่ส่งผลให้เกิดอาการท้องร่วงโดยตรงได้ จากงานวิจัยทั้ง 23 ชิ้น ในเด็ก 3,938 คน พบว่าการเสริมโพสไบโอติกมีประสิทธิภาพมากกว่ายาหลอกที่ไม่ส่งผลอะไร
หาโพสไบโอติกได้ที่ไหน
โพสไบโอติกไม่ได้เป็นสิ่งที่สามารถหาในแหล่งอาหารทั่วไปโดยตรง เพราะ Postbiotic คือกระบวนการหลังจากที่โพรไบโอติกย่อยพรีไบโอติก ซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองหากมีโพรไบโอติกสายพันธุ์ที่เหมาะสมและได้รับพรีไบโอติกเพียงพอ
หากต้องการโพสไบโอติกบางสายพันธุ์เพื่อดูแลเฉพาะจุด อาจเสริมได้ในรูปแบบอาหารเสริม หรือเลือกกินอาหารบางประเภทที่ช่วยให้โพรไบโอติกเจริญเติบโตได้ดี เพื่อสร้างโพสไบโอติกสายพันธุ์ที่ต้องการในลำไส้ เช่น กีวีสีทอง แคร์รอตสีม่วง กิมจิ ผักดอง เทมเป้ โยเกิร์ต คอมบูฉะหรือชาหมัก คอทเทจชีส เป็นต้น
Postbiotics VS Probiotic VS Prebiotic
โพสไบโอติก (Postbiotics) เป็นสารที่ได้จากการย่อยอาหารของแบคทีเรีย เพราะเมื่อแบคทีเรียกินอาหารเข้าไปแล้วย่อยออกมา จึงได้สารต่างๆ มากมาย เมื่อมีสารอยู่ในร่างกายของเรา จึงส่งผลดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพได้
โพรไบโอติก (Probiotics) เป็นเชื้อแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์มีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาศัยอยู่ในลำไส้ มักพบในอาหารที่มีรสเปรี้ยว เช่น โยเกิร์ต กิมจิ นมเปรี้ยว และอาหารเสริม ช่วยในการปรับสมดุลของภูมิคุ้มกันในลำไส้ ส่งเสริมการย่อยอาหาร กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน เป็นต้น
พรีไบโอติก (Prebiotics) เป็นอาหารของโพรไบโอติก ช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้โพรไบโอติกทำงานได้ดีขึ้น มักพบในผัก ผลไม้ กระเทียม หัวหอม และอาหารที่มีใยอาหารมาก ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ดีอย่างโพรไบโอติก ช่วยในการลดการอักเสบในลำไส้ และเพิ่มปริมาณของกรดไขมันสายสั้น5
เพราะมีพรีไบโอติก โพรไบโอติกถึงเจริญเติบโตได้ดี และเพราะการทำงานของโพรไบโอติก จึงทำให้เกิดโพสไบโอติกที่เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย จึงจำเป็นต้องปรับสมดุลลำไส้เพื่อให้ร่างกายมีครบ ทั้งพรีไบโอติก โพรไบโอติก และโพสไบโอติก
สรุป
โพสไบโอติก เป็นนวัตกรรมสุขภาพล่าสุดที่ช่วยในการดูแลสุขภาพลำไส้ โพสไบโอติกเป็นสารที่ได้จากโพรไบโอติกที่กินพรีไบโอติกไป
ซึ่งประโยชน์ของโพสไบโอติกมีด้วยกันหลายอย่าง
จึงแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์โพสไบโอติก หรืออาหารเสริมโพสไบโอติกที่มีการรวมโพสไบโอติกสายพันธุ์เฉพาะและสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยให้โพรไบโอติกเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งเป็นเหมือนทางลัดในการดูแลสุขภาพของคุณ